๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕ กระทรวงการคลัง ออกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ก่อนครบกำหนดระยะเวลา ๕ ปี ตามมาตรการรถยนต์คันแรก และมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม
ประกาศระบุว่า เพื่อให้การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ก่อนครบกำหนดระยะเวลา ๕ ปี ตามมาตรการรถยนต์คันแรก ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ และมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ก่อนครบกำหนดระยะเวลา ๕ ปี ไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ ก่อนครบกำหนดระยะเวลา ๕ ปี ตามมาตรการรถยนต์คันแรก และมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม ลงวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ข้อ ๒ การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ก่อนครบกำหนดระยะเวลา ๕ ปี ตามมาตรการรถยนต์คันแรก และมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม ให้โอนได้ในกรณีดังต่อไปนี้
๒.๑ กรณีผู้ซื้อนำเงินที่ได้รับไปตามมาตรการดังกล่าวข้างต้นคืนแก่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วมแล้วแต่กรณี
๒.๒ กรณีผู้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อก่อนครบกำหนดระยะเวลา ๕ ปี และผู้ให้เช่าซื้อนำรถยนต์ออกขายโดยวิธีการประมูลหรือวิธีการที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคกำหนด เมื่อหักใช้หนี้และค่าใช้จ่ายในการขายดังกล่าวแล้ว ถ้ามีเงินเหลืออยู่อีกเท่าใด ให้ผู้ให้เช่าซื้อนำเงินส่งให้แก่สำนักงาน สรรพสามิตพื้นที่ที่ผู้เช่าซื้อยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม แล้วแต่กรณี
๒.๓ กรณีผู้เช่าซื้อปฏิบัติผิดสัญญาเช่าซื้ออันเป็นเหตุให้รถยนต์ถูกยึดและนำออกขายโดยวิธีการประมูลหรือวิธีการที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคกำหนด เมื่อหักใช้หนี้และค่าใช้จ่ายในการขายดังกล่าวแล้ว ถ้ามีเงินเหลืออยู่อีกเท่าใด ให้ผู้ให้เช่าซื้อนำเงินส่งให้แก่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ผู้เช่าซื้อยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม แล้วแต่กรณี
๒.๔ กรณีรถยนต์ที่ซื้อหรือเช่าซื้อเกิดอุบัติเหตุหรือประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติและผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อไม่ประสงค์จะใช้รถยนต์นั้นต่อไป
๒.๕ กรณีรถยนต์ที่ซื้อหรือเช่าซื้อสูญหายและบริษัทผู้รับประกันภัยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ซื้อหรือผู้ให้เช่าซื้อไปแล้ว ต่อมาผู้ซื้อหรือผู้ให้เช่าซื้อได้รับรถยนต์กลับคืนมาและต้องโอนกรรมสิทธิ์ให้กับบริษัทผู้รับประกันภัย
๒.๖ กรณีผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อถึงแก่กรรม
๒.๗ กรณีผู้ให้เช่าซื้อโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้เช่าซื้อ
๒.๘ กรณีผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อซึ่งได้รับโอนกรรมสิทธิ์แล้ว ต่อมาได้ทำสัญญาเช่าซื้อและโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ให้เช่าซื้อ โดยผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อยังเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ตามสัญญาเช่าซื้ออันเนื่องมาจากการขอสินเชื่อเช่าซื้อนั้น
ทั้งนี้ กรณีตาม ๒.๒ - ๒.๕ ผู้ซื้อหรือผู้เช่าซื้อยังคงมีหน้าที่ต้องนำเงินที่ได้รับไป คืนแก่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ที่ยื่นคำขอใช้สิทธิตามมาตรการรถยนต์คันแรก หรือมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรถยนต์น้ำท่วม แล้วแต่กรณี สำหรับหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการรับเงินคืนกรณีตาม ๒.๒ - ๒.๕ ให้เป็นไปตามที่กรมบัญชีกลางกำหนด
ข้อ ๓ ให้อธิบดีกรมสรรพสามิตมีอำนาจวางระเบียบกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามประกาศนี้
ข้อ ๔ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันออกประกาศเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕
ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย
รัฐมนตรีช่วยว่าการ ฯ ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง